• Home
  • Tag: คาร์ดิโอ

หนีให้ไกลบาดเจ็บจากฟิตเนส

                ถึงแม้ว่าการเล่นฟิตเนสจะทำให้คุณมีกล้ามเนื้อ และรูปร่างที่สมส่วนก็ตามทว่าในทางกลับกันหากคุณหักโหมเกินไป หรือเล่นฟิตเนสแบบไม่ระมัดระวังตัวจะส่งผลให้กล้ามของคุณได้รับบาดเจ็บได้เช่นกันอาการบาดเจ็บจากการเล่นฟิตเนสมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน อาทิเช่น การเล่นฟิตเนสที่ไม่ถูกต้อง หรือเล่นขณะที่ร่างกายคุณ ซึ่งยังไม่มีความพร้อมมีคนเล่นฟิตเนสจำนวนมากที่เกิดความเข้าใจผิดว่าหากเรายิ่งโหมเล่นให้หนักหน่วงมากเท่าไหร่ และกล้ามเราก็จะขึ้นเร็วและแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้นซึ่งในความเป็นจริงแล้วถือเป็นเรื่องเข้าใจผิด                ในหลักการเล่นฟิตเนสที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ นั่นคือ คุณต้องมีเวลาพักบ้าง และเพื่อให้กล้ามเนื้อเกิดการฟื้นฟูตัวเองอย่างวันแรกถ้าเล่นหนัก ซึ่งวันที่ต่อมาอาจจะต้องเล่นเพลาๆลงบ้างยกตัวอย่างเช่น ซึ่งวันที่ 1 คุณเล่นเวท วันที่ 2 คุณอาจจะเน้นคาร์ดิโอให้มากขึ้น และเรียกได้ว่ามีเวลาผ่อนหนักผ่อนเบาปล่อยให้ร่างกายมีการฟื้นตัว ซึ่งเพราะมิเช่นนั้นแล้วเมื่อออกกำลังกายหนักมากไปกล้ามเนื้อจะบาดเจ็บ และพอกล้ามเนื้อบาดเจ็บการฝึกของคุณก็จะไม่มีความก้าวหน้า และทุกอย่างที่ตั้งใจฝึกมาก่อนหน้านี้ก็จะถอยหลังกลับไปสู่จุดที่เป็นศูนย์                  ซึ่งสำหรับบางคนที่ออกกำลังกายธรรมดา ไม่ถึงกับหนักมากแต่หากในขณะนั้นคุณภาพของกล้ามเนื้อคุณจะไม่มีความพร้อมอย่างเต็มที่อาการบาดเจ็บก็จะมาเยือนทันทีและหลักการออกกำลังกายที่ดีนั้นก็คือคุณภาพของกล้ามเนื้อต้องมีคุณภาพดีนั่นหมายความว่ากล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น แข็งแรง และมีความทนทาน ในเมื่อคุณออกกำลังกายตามปกติด้วยท่าที่ถูกต้อง และไม่หักโหมเกินไปคุณจะหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บได้การป้องกันอาการบาดเจ็บ               ซึ่งจะสามารถทำได้ครับอันดับแรกเลยก็คือ ซึ่งกล้ามเนื้อของคุณต้องมีความยืดหยุ่นก่อนไปออกกำลังกายอย่างเช่น การเริ่มต้นสเตรทช์ (stretch) และในส่วนต่างๆ ของร่างกายใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ซึ่งด้วยการฝึกกับซึ่งกล้ามเนื้อจะเกิดการฉีกขาดอย่างง่ายดายอยากฝากไว้ว่าอย่าเพลิน และการเล่นฟิตเนสที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้นจะต้องมีการกำหนดโปรแกรม และมีตารางการฝึกที่เหมาะสม พร้อมกับกำหนดวันพักขณะที่ต้องกินอาหารเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อโดยต้องยึดหลักการกินที่เรียกว่า บาลานซ์ไดเอต ควบคู่กันไป สล็อต เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ เปิดบัญชีใหม่วันนี้ ไม่มีขั้นต่ำ

ออกกำลังกายลดน้ำหนักให้ได้ผล คาร์ดิโอกับเวทเทรนนิ่ง แบบไหนได้ผลกว่ากัน

            สำหรับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆ ของร่างกายนั้น ซึ่งมีด้วยกันหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีจุดมุ่งหมายในการกระชับสัดส่วนหรือลดไขมันที่แตกต่างกันไป จึงทำให้เกิดคำถามที่ว่า ซึ่งถ้าเราจะต้องการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกิน กระชับสัดส่วนให้สวยเพรียวได้รูป และเราควรเลือกการออกกำลังกายแบบไหนจะดีกว่ากัน ระหว่าง คาร์ดิโอ กับ เวทเทรนนิ่ง หรือควรทำทั้งคู่             ซึ่งการเวทเทรนนิ่งที่ใช้กล้ามเนื้อในการออกกำลังกายเป็นส่วนใหญ่ กับการคาร์ดิโอที่เน้นใช้แรงของร่างกายเป็นหลัก การออกกำลังกายทั้ง 2 ประเภทนี้ และแบบไหนเห็นผลดีกว่า ลดน้ำหนักได้เร็วกว่ากัน คาร์ดิโอ คือ            ดังนั้น คาร์ดิโอ (Cardio) :เป็นหนึ่งในประเภทการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับที่สูงกว่า 60% ของจุดที่คุณรู้สึกเหนื่อยที่สุดอย่างต่อเนื่อง และโดยไม่มีการลดระดับลง ซึ่งจะใช้เวลาในการออกกำลังกายประมาณ 30 – 60 นาที            ซึ่งโดยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนั้นจะช่วยเผาผลาญพลังงานและไขมันส่วนเกินในร่างกายได้ดีกว่าการออกกำลังกายแบบอื่น แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยในการออกกำลังกายด้วยเช่นกัน และไม่ว่าจะเป็นความเข้มข้นที่ใช้, น้ำหนักตัว, อัตราการเต้นของหัวใจในช่วงนั้นๆ และรวมไปถึงระยะเวลาในการออกกำลังกายที่ใช้ด้วย เวทเทรนนิ่ง คือ            ในการเวทเทรนนิ่ง (Weight training) หรือการยกเวท ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญไขมัน ที่ทำให้กล้ามเนื้อได้ออกแรงต้าน และจากการยกน้ำหนัก…

การออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ 

             สำหรับการออกกำลังกายล้วนมีข้อดีที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันโรคภัย แต่การออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ ซึ่งให้มากกว่านั้นอีกนะคะ มาดูกันว่า การออกกำลังกายแบบนี้ และช่วยอะไรบ้าง ซึ่งจะแนะนำให้คนไข้ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นกิจวัตรประจำวัน เน้นความต่อเนื่อง 30 นาที โดยไม่ต้องเน้นความหนัก ตัวอย่างเช่น การปั่นจักรยาน เดินเร็ว เต้นรำ             คาร์ดิโอ คือ ซึ่งการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ปอดและหัวใจ ซึ่งโดยจะทำให้ร่างกายนำออกซิเจนมาใช้ได้มากขึ้น และทำให้ออกกำลังกายอึดขึ้น เพิ่มการเผาผลาญของร่างกาย และโดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามแรงกระแทกที่เกิดขึ้น แบบที่มีแรงกระแทกต่ำ เช่น เดิน ขี่จักรยาน ออกกำลังกายในน้ำแบบที่มีแรงกระแทกสูง เช่น วิ่ง กระโดดเชือก สำหรับข้อดีที่มากกว่าความแข็งแรงของร่างกายก็คือ ลดระดับน้ำตาลในเลือด              และอีกทั้งทำให้ฮอร์โมนอินซูลินกลับสู่สมดุลอย่างช้าๆ ซึ่งกรณีที่เป็นผู้ป่วยเบาหวาน และนายแพทย์ไทเลอร์แนะนำให้เพิ่มการออกกำลังกายแบบเวตเทรนนิ่ง 20 – 30 นาที ซึ่งโดยจะทำก่อนหรือหลังการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ อารมณ์ดี               ซึ่งเนื่องจากพบว่าช่วยกระตุ้นให้สมองส่วนฮิปโปแคมปัสทำงาน และจึงส่งผลต่ออารมณ์และซะลอความเสื่อมของเซลล์สมอง ช่วยให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า…